“เราอยากขีดเส้นทางชีวิตเราเอง หลังเกษียณอายุ”

“ป้าอยากขีดเส้นทางชีวิตป้าเอง ในตอนที่ป้ายังสมบูรณ์พร้อม ถ้าเราไม่ตัดสินใจเองตอนนี้ ตอนที่เราไม่พร้อม ตัดสินใจเองไม่ได้แล้ว ก็จะมีคนมาตัดสินใจแทนเรา”

ผมได้ฟังประโยคนี้ จากลูกบ้านท่านหนึ่งของ jin Wellbeing County ท่านตอบคำถามผมว่าทำไมเลือกมาอยู่ที่ Jin Wellbeing County เรามีบทสนทนาต่อจากนั้นอีกไม่นานนัก ก่อนที่แก๊งค์ของคุณป้าจะขับรถมารับออกไปชอปปิ้งกัน

ประโยคข้างต้นทำให้ผมนึกถึงเรื่องราว เรื่องราวนึง ที่ถูกหยิบยกมาบอกเล่าต่อ ๆกัน เป็นเรื่องราวของคุณโรส

เรื่องราวของ “โรส” … นักศึกษา ในวัย 87 ปี

จากบันทึกของเพื่อนในชั้นเรียนท่านหนึ่ง
ในวันแรกของการเรียน หลังจากที่อาจารย์ผู้สอนได้แนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว เขาได้แนะนำให้พวกเราได้รู้จักกับใครคนหนึ่ง ที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน
ผมลุกขึ้นยืนและมองไปรอบๆ … ในเวลาเดียวกับที่ มีคนมาแตะไหล่ผมเบาๆ จากด้านหลัง… และทันใดนั้นเอง ผมก็เห็นหญิงชราร่างเล็กคนหนึ่งกำลังยิ้มให้ผมด้วยสายตาที่จริงใจมากๆ
“สวัสดีจ้ะ พ่อรูปหล่อ ชั้นชื่อ โรส อายุ 87 ปีแล้ว ขอกอดเธอหน่อยได้มั้ย” … หญิงชรากล่าวทักทาย
ผมหัวเราะขึ้นมาทันที และตอบไปว่า “ได้สิครับ!” แล้วเธอก็กอดผมซะแน่นเลยทีเดียว
“ทำไมคุณถึงมาเข้าเรียนตอนอายุยังน้อยแบบนี้ล่ะ? ผมถามแซวเธอ
เธอหัวเราะร่า ก่อนจะตอบว่า “ฉันมาเรียนที่นี่ก็เพื่อจะหาแฟนรวยๆ … แต่งงาน… แล้วก็มีลูกด้วยกันซัก 2-3 คนจ้ะ”
“ไม่มีทาง!!” ผมตอบกลับทันที เพราะผมสงสัยว่า อะไรเป็นแรงกระตุ้นให้เธอยังคงมีความท้าทายขนาดนี้ ทั้งๆ ที่อายุมากแล้ว
“ฉันใฝ่ฝันอยู่ตลอด ถึงการได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย และตอนนี้ฉันก็ทำได้แล้ว!” เธอบอกกับผม
หล้งเลิกเรียน เราสองคนเดินไปที่ตึกสภานักศึกษา และนั่งกินมิลค์เชคช็อกโกแลตด้วยกัน เรากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน … และทุกๆ วันหลังจากนั้นในอีกสามเดือนถัดมา เราก็ออกมาจากห้องเรียนด้วยกันและคุยกันไม่หยุดเสมอ ผมเพลิดเพลินและหลงใหลมากๆ กับการนั่งฟังบทเรียนชีวิตและประสบการณ์ดีๆ จากเธอ เหมือนเธอชวนผมนั่ง “ไทม์แมชชีน” (เครื่องย้อนเวลา) ไปกับเธอด้วย
หลังจากที่เรียนไปหนึ่งปี โรสกลายเป็นคนดังในแคมปัส และเธอสร้างมิตรภาพได้ง่ายมากๆ ในทุกที่ที่เธอไป เธอรักการแต่งตัวสวยๆ และเธอมีความสุขมากๆ กับสิ่งต่างๆ ที่เพื่อนๆ มอบให้ … เธอดูมีความสุขมากจริงๆ
ตอนจบภาคเรียน พวกเราได้เชิญโรสขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานฟุตบอลประเพณีของมหาวิทยาลัย ผมไม่มีวันลืมเลยในสิ่งที่เธอได้สอนพวกเรา
เมื่อพิธีกรได้เรียกขานชื่อเธอ เธอก็เดินขึ้นไปยืนที่โพเดี้ยม … เตรียมกล่าวสุนทรพจน์จากกระดาษโน๊ตที่เธอเตรียมมา … แต่เธอทำกระดาษโน๊ต 3 ใบ จากทั้งหมด 5 ใบ ตกลงที่พื้น
เธอดูประหม่าและเขินอายเล็กน้อย ก่อนที่จะโน้มตัวไปที่ไมโครโฟน และกล่าวว่า…
“ฉันขอโทษทุกคนด้วย ฉันกำลังกระวนกระวายใจนิดหน่อย ถึงฉันจะเลิกดื่มเบียร์ได้พักใหญ่ๆ แล้ว แต่เหล้าวิสกี้กำลังจะฆ่าฉันอยู่ตอนนี้ ฉันคงไม่สามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้ตามปกติแล้ว เพราะฉะนั้น ขอฉันพูดอะไรบางอย่างที่ฉันอยากพูดละกันนะคะ”
เพื่อนๆ ต่างพากันหัวเราะในสิ่งที่เธอพูด และเธอก็ได้เริ่มพูดขึ้น …
“เราจะไม่หยุดเล่นเพียงเพราะว่าเราแก่ แต่เราแก่ก็เพราะว่าเราหยุดเล่นต่างหาก … มีเคล็ดลับอยู่ 4 อย่างเท่านั้น ที่ทำให้เรายังคงความหนุ่มสาวได้อยู่เสมอ แถมยังมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต … นั่นก็คือ
อย่างแรก : พวกคุณต้องหมั่นหัวเราะและคอยมองหาความรื่นเริงขบขันในทุกๆ วัน
อย่างที่สอง : พวกคุณต้องมีฝัน เพราะหากคุณไม่มีฝัน ถือว่าคุณได้ตายจากโลกนี้แล้ว … มีผู้คนมากมายบนโลกใบนี้ ที่เดินไปเดินมาแบบคนที่ไร้จิตวิญญาณ แถมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตัวเองเป็นแบบนั้น!
เป็นความแตกต่างอย่างมหาศาลมาก ระหว่าง “การแก่ขึ้น” กับ “การเติบโตขึ้น”
หากว่าคุณอายุ 19 ปี และนอนอยู่บนเตียง 1 ปีเต็มๆ โดยไม่ทำอะไรซักอย่างให้สำเร็จ คุณก็จะกลายเป็นคนอายุ 20 ปีไปในทันที
อย่างที่สาม : คนเราแก่ขึ้นในทุกๆ วันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพรสวรรค์และความสามารถจะหายไปตามความแก่ แนวคิดของฉันก็คือ เราเติบโตขึ้นได้ในทุกๆ วัน ด้วยการหมั่นมองหาโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เสมอ
และอย่างสุดท้าย : อย่ามัวแต่นั่งเสียใจหรือรู้สึกผิดกับเรื่องต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว
ผู้สูงอายุมักจะไม่มานั่งเสียใจหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่พวกเราทำลงไป แต่จะเสียใจกับสิ่งที่พวกเราไม่ได้ทำมันต่างหาก คนที่กลัวความตายก็คือคนที่ชีวิตจมอยู่กับความเสียใจ ความรู้สึกผิดต่างๆ”
เธอจบท้ายการกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ ด้วยการร้องเพลง “เดอะโรส”
เธอเชิญชวนพวกเราทุกคนให้เรียนรู้ “เนื้อร้อง” ของเพลงนี้ และนำมันไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
หนึ่งสัปดาห์ถัดมา หลังจากที่เธอได้รับปริญญา (จากที่ได้ร่ำเรียนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา) เธอก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ในขณะที่เธอหลับ
นักศึกษากว่าสองพันคน เข้าร่วมพิธีศพของเธอ และยกย่องเธอในฐานะของ หญิงผู้วิเศษ … ที่สอนทุกคนด้วยการทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า “ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่จะเป็นในสิ่งต่างๆ ที่คุณสามารถเป็นได้”
เมื่อคุณอ่านเรื่องนี้จบ และเห็นว่ามีประโยชน์ ช่วยส่งต่อเรื่องราวดีๆ นี้ ให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ของคุณ ผมเชื่อว่าทุกคนจะมีความสุขกับเรื่องราวนี้นะครับ
ประโยคด้านล่างนี้ คือ ข้อความสั้นๆ จากเพื่อนๆ ของโรส … แทนความรักและความคิดถึงที่มีต่อโรส

{จงจำไว้ว่า “การแก่ขึ้น” คือ ข้อบังคับในชีวิต
แต่ “การเติบโตขึ้น” คือ ทางเลือกในชีวิต … ที่เราเลือกได้ }
<บทความโดย สานุพันธ์ ชุมสาย ณ อยุธยา>

ผมเชื่อว่า จากเรื่องราวของโรส และลูกบ้าน Jin wellbeing county ของเรา น่าจะเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับหลาย ๆ คน ในการเพิ่มมุมองของชีวิต เพราะการวางแผนชีวิตด้วยตัวเราเอง ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

สนใจเข้าชมโครงการ Jin Wellbeing County
✆ Tel : 02-078-5777
Line : @jinwellbeing | https://lin.ee/f7JBkDb
Website: https://www.jinwellbeing.com

ARTICLE >